หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน พระผู้สอนกฎแห่งกรรม
หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน พระผู้สอนกฎแห่งกรรม
หลวงพ่อจรัญ หรือพระธรรมสิงหบุราจารย์ เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี ท่านเป็นพระนักเทศน์ วิปัสสนาจารย์ เป็นผู้สอนเรื่องกฎแห่งกรรม พร้อมบทสวดต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ท่านกำลังอาพาธ
ท่านหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม เป็นพระที่มีผู้รู้จักกันดีอีกรูปหนึ่ง ท่านเป็นฝ่ายปฏิบัติธรรม อันเนื่องมาจากท่านมีความศรัทธาในคำสอนชองบูรพาจารย์ที่สอนหลักธรรมที่ท่านได้เผยแพร่คำสอนมาอย่างยาวนาน ล่าสุดมีข่าวว่าท่านหลวงพ่อจรัญได้เข้ารับการรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลศิริราช ด้วยอาการหอบหืดเนื่องจากโรงปอดอักเสบ และตรวจพบว่าการทำงานของไตบางส่วนลดลง ต้องได้รับการรักษาด้วยการช่วยให้หายใจจากเครื่องช่วยหายใจ ทำให้มีลูกศิษย์ที่มี่อยู่จำนวนมากมีความกังวลเป็นอย่างมาก เนื่องจากหลวงพ่อเป็นแบบอย่างพระผู้ปฺฏิบัติดี มีชื่อเสียงในด้านการเป็นพระนักพัฒนา พระนักเทศน์และพระวิปัสสานาจารย์ รวมทั้งเป้ฯผู้ที่หยิบยกกฎแห่งกรรมที่ท่านเคยทำไว้เมื่อวัยเด็กมาสอนประชาชนอย่างมากมาย ทำให้ท่านมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงการอย่างกว้างขวาง และมีผู้สนใจประวัติของท่านเป็นอักมาก วันนี้จึงได้เรียบเรียงมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้
หลวงพ่อจรัญ เดิมท่านชื่อว่า นายจรัญ จรรยารักษ์ เกิดเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2471 เมื่อเวลาประมาณ 07.10 น. ท่านเป็นบุตรคนที่ 5 ในจำนวน 10 คน มีพ่อชื่อนายแพ แม่ชื่อนางเจิม สุขประเสริญ มีอาชีพเดิมเป็นชาวนา ที่ ต.ม่วงหมู่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี อุปสมบทเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2491 สำเร็จการศึกษานักธรรมโท ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี และที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 3
ชีวิตวัยเด็ก ของหลวงพ่อจรัญ ท่านถูกยายอายุ 80 ปีขอไปเลี้ยงเป็นเพื่อนเนื่องจากตาลาบวช โดยได้เดินทางไปอยู่ที่บ้านทรงไทย ที่อยู่ติดกับแม่น้ำลพบุรี ในเวลาประมาณ 04.00 น.ทุกวันคุณยายจะต้องต่านขึ้นมาสวดมนต์เป็นเวลา 1 ช.ม. โดยมีเด็กชายจรัญคอยเตรียมอาหารไว้ให้ใส่บาตร จากนั้นสองยายหลานจะพากันไปเก็บผัก ผลไม้ เพื่อนำไปขายที่ตลาดในเมือง เป็นกิจวัตรก่อนที่เด็กชายจรัญจะไปโรงเรียน แต่ช่วงนั้นเด็กชายจรัญต้องย้ายโรงเรียนบ่อยเนื่องจากสอบตกและไม่ตั้งใจเรียน เป็นเด็กเกเร ชอบเอาเวลาเรียนไปยิงนก ตกปลาและสร้างวีรกรรมในทางที่ไม่ดีไว้มากมาย จนช่วงเรียนมัธยมถูกทางโรงเรียนไล่ออก จนทำให้ไม่มีโรงเรียนใดใน จ.สิงห์บุรีรับเข้าเรียน ทำให้ยายต้องส่งไปอยู่กับปู่ซึ่งเป็นคุณหลวงในกรุงเทพ ฯ และได้ไปเรียนดนตรีไทยของคุณหลวงประดิษฐ์ไพเราะก่อนถูกส่งตัวต่อไปฝากกับ จอมพล ป.ได้รับการสนัยสนุนให้เข้าเรียนต่อที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ แต่เมื่อเจอรุ่นพี่วางอำนาจใส่ ทำให้ทนไม่ได้จนทำให้มีเรื่องกับรุ่นพี่จึงต้องลาออก และกลับไปตั้งวงดนตรีไทยที่บ้านเกิด