หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง
หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง
วัดโคนอน ต.บางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. เป็นวัดที่หลวงปู่รอด เป็นเจ้าอาวาส และเป็นเกจิดังผู้เลื่องนาม มีความเก่งหล้าทางไสยเวท เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่เอี่ยม ที่ครองวัดต่อจาก พระภวนาโกศลเถระ เมื่อท่านสิ้นไปแล้วหลวงปู่เอี่ยมซึ่งเป็นศิษย์เอกก็ได้เป็นเจ้าอาวาสองค์ต่อมา ของวัด โคนอน ทั้งพระอาจารย์และพระลูกศิษย์ได้สร้างวัตถุมงคลไว้ไนลักษณะที่คล้ายกัน
วัดหนังเดิมเป็นวัดที่เก่าแก่เมื่อสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย
วัดหนังราชวรวิหาร หรือที่รู้จักและเรียกกันสั้น ๆ ว่า “วัดหนัง” แต่เดิมเป็นวัดในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ตั้งอยู่ในคลองฝั่งเหนือ ต.บางค้อ อ.บางขุนเทียน กทม. ได้ถูกรื้อถอนออกไป ต่อมาเมื่อถึงสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ทรงโปรดให้ปฏิสังขรณ์ใหม่ แล้วยกให้เป็นพระอารามหลวง จนถึงสมัย ร.5
พระองค์ได้โปรดให้มีการบูรณปฏิสังขรณ์อีกครั้ง ที่วัดนี้เดิมมีหลวงปู่รอดเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ต่อมาย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสวัดนางนอง หลวงปู่เอี่ยมจึงเป็นเจ้าอาวาสแทน หลวงปู่เอี่ยม หรือเจ้าคุณเฒ่า หรือพระภาวนาโกศล ท่านเป็นชาวบางขุนเทียนโดยกำเนิด ท่านเกิดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2375 เป็นบุตรนายทอง และนางอู่ โยมทั้งสองของท่านได้นำท่านไปฝากให้เรียนหนังสือที่สำนักวัดหนัง จนถึงปี พ.ศ.3697 ท่านได้อุปสมบท ที่วัดราชโอรส
ท่านให้ความสนใจในพระธรรมวินัยเป็นอย่างมากและได้ศึกษาทางด้านปริยัติธรรมมาโดยตลอด ท่านได้ย้ายไปตำพรรษาที่วัดนางนอนชั่วระยะหนึ่ง และได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่รอด ซึ่งขณะนั้นกำลังดังมาก เป็นเกจิดังแห่งยุคทีเดียว ต่อมาในปลายสมัย ร.4 หลวงปู่รอดได้ถูกถอดจากสมณะศักดิ์ ให้เป็นพระสงฆ์ธรรมดา ท่านจึงได้ย้ายไปอยู่วัดโคนอน โดยมีเจ้าคูณเฒ่าตามไปรับใลช้ใกล้ชิดเหมือนเดิม ต่อมาหลวงปู่รอดก็มรณภาพ หลวงปู่เอี่ยมจึงขึ้นเป็นเจ้าอาวาสแทน
หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง
หลวงปู่เอี่ยมแห่งวัดหนังองค์นี้ นับได้ว่าท่านเป็นพระผู้เรืองวิชาที่สุดองค์หนึ่ง และอยู่ในระดับเดียวกับหลวงปู่รอดทีเดียว ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของท่านโดยตรง ได้สร้างวัตถุมงคลไว้มากมาย โดยเป็นเจ้าตำหรับพระปิดตายันต์ยุ่งที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ มีมูลค่านับแสนนับล้าน มีผู้เสาะหาเล่นกันมากมายไม่แพ้วัตถุมงคลของพระองค์อื่น
หลวงปู่เอี่ยมท่านละสังขาร ถึงแก่มรณภาพด้วยโรคชราเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2469 สิริรวมอายุได้ 93 ปี 11 เดือน 71 พรรษา และได้ครองวัดหนังมาเป็นเวลาถึง 27 ปี