หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง
ประวัติเกจิอาจารย์ admin  

หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง

หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง

หลวงปู่สิม พุทธาจาโร ท่านมีนามเดิมว่า สิม วงศ์เข็มมา เกิดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2452 ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 12 ปีระกา เวลาประมาณ 21.00 น. ณ บ้านบัว ต.สว่าง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร บิดาชื่อ นายสาน มารดาชื่อนางสิงห์ดำ วงศ์เข็มมา มีพี่น้องร่วมกัน 10 คน ตัวท่านเป็นบุตรคนที่ 5

สกุล “วงศ์เข็มมา” เป็นสกุลเก่าแก่ของบ้านบัว ซึ่งเป็นต้นสกุลของท่านขุนแก้ว และอิทปัญญา น้องชายท่านขุนแก้วก็คือ ปู่ของท่านเอง ย้อนความาในคืนที่หลวงพ่อท่านเกิด เวลาประมาณ 1 ทุ่ม โยมมารดาท่านเคลิ้ม หลับไป ได้ฝันเห็นพระสงฆ์รูปหนึ่ง มีรัศมีกายสุขสว่าง แลเห็นแล้วเย็นตาเย็นใจเป็นอันมาก ได้ลอยลงมาจากฟากฟ้า ได้มาที่กระต๊อบในทุ่งนาของนาง ต่อมาในเวลาประมาณ 3 ทุ่ม นางก็ให้กำเนิดเด็กน้อยผิวขาวสะอาด จากความฝันที่นางเล่าให้ฟัง นายสานผู้เป็นสามีและเป็นบิดาของเด็กน้อยให้ตั้งชื่อให้ว่า “สิม” ซึ่งหมายถึงโบสถ์ในภาษาอีสาน อันบอกว่ามีความใกล้ชิดกับศาสนาพุทธ ซึ่งต่อมาเด็กชายสิมผู้นี้เมื่อมีอายุได้ประมาณ 15-16 ปี ท่านมีความสนในในเรื่องดนตรี หลวงปู่แว่น ธนปาโล เล่าว่า ตัวท่านเองเป็นหมดลำ ส่วนหลวงปู่สิม ทำหน้าที่หมดแคน

หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง

สิ่งหนึ่งที่บันดาลให้หลวงปู่สิม ออกบวชก็คือ ความสะดุ้งกลัวต่อความตาย ท่านเล่าว่า ตั้งแต่เด็กเมื่อได้เห็น หรือไม่ข่าวคนตาย มันทำให้สลดใจทุกครั้ง กลัวว่าจะต้องตายก่อนได้บวช มรณานุสคติได้เกิดขึ้นในใจท่าน อยู่ตลอดเวลา และเฝ้าย้ำเตือนให้ท่านไม่ประมาทในชีวิต ไม่ประมาทในความตาย ท่านจำได้กำหนด มรณํ เม ภวิสสติ ของท่านอยู่ตลอดเวลามาแต่ไหนแต่ไร ตั้งแต่ยังไม่ได้ออกบวชจนสิ้นอายุขัย หลางปู่ท่านใช้อุบายธรรมชัยเดียวกันนี้อบรมลูกศิษย์ลูกหาอยู่ตลอดเวลา เรียกว่าเมื่อหลางปู่สวดครั้งใดมักจะมี มรณํ เมถวิสสติ เป็นสัญญาณเตือนภัยจากพญามัจจุราชให้ลูกศิษย์ลูกหาเตือนใจอยู่ทุกครั้ง

ขณะท่านอายุได้ 17 ปี ได้ขอให้บิดามารดาบวชสมาเณรให้ ที่ วัดศรีรัตนาราม ซึ่งเป็นวัดมหานิกาย ที่บ้านบัวนั่นเอง ซึ่งตรงกับวันที่ 8 กรกฏาคม 2469 เป็นวันอาทิตย์ แรม 7 ค่ำ เดือน 8 ปีมะโรง โดยมีพระอาจารย์สีทอง เป็นพระอุปฃฌาย์ ต่อมาคณะกองทัพธรรมของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้เดินธุดงค์มาจาก จ.หนองคาย เพื่อมาเผยแพร่พระธรรมแก่ประชาชน และได้เดินทางมาถึงวัดศรีสงคราม ต.สามผล อ.ศรีลงคราม จ.นครพนม สามเณรสิม จึงได้มีโอกาสเดินทางไปฟังธรรม ทั้งจากพระอาจารย์ใหญ่คือหลวงปู่มั่น และพระอาจารย์สิง ท่านพระอาจารย์มหาปิ่น สามเณรสิมได้เฝ้าสังเกตข้อปฏิบัติของพระอาจารย์มั่น และท่านพระอาจารย์สิงห์ รวมทั้งพระอาจารย์อื่นที่ร่วมคณะ ทำให้เกิดความเลื่อมใสอย่างมาก ได้ตัดสินใจถวายตัวเป็นศิษย์ และได้ขอเข้าเป็นธรรมยุตินิกาย แต่ขณะนั้นวัดยังไม่มีโบสถ์ของธรรมยุตินิกายในละแวกนั้นจึงต้องไปประกอบพิธีกรรมที่โบสถ์น้ำ ซึ่งทำจากเรือ 2 ลำ โดยทำเป็นโป๊ะให้ลอยคู่กัน แล้วใช้ไม้พื้นยึดให้อยู่โดยทำเป็นไม้พื้น แต่ไม่มีหลังคา ให้สมมุติว่าเป็นโบสถ์แทน โดยท่านอาจารย์มั่น เป็นพระประธาน และเจ้าคุณธรรมเจดีย์ (จูม พนธุโล) เป็นพระอุปัชฌาที่วัดป่าบ้านสามผง จากนั้นสามเณรสิมก็ได้ติดตามท่านพระอาจารย์มั่นไปจำพรรษาที่วัดป่าบ้านข่า ต.บ้านข่า อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

ต่อมาหลวงปู่สิมอายุครบบวช ก็ได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดศรีจันทราวาส ต.พระลัง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ในวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2472 ตรงกับ วันอังคารขึ้น 10 ค่ำ เดือน 8 ปีมะเส็ง โดยมีเจ้าคุณพระเทพสิทธาจารย์ (จันทร์ เขมิโย) เมื่อครั้งยังเป็นพระครูพิศาลอรัญญเขต เจ้าคณะธรรมยุติจังหวัดขอนแก่น เป็นพระอุปัชฌาย์ และมีพระอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดดวงจันทร์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พุทฺธาจาโร” และได้เดินทางติดตามทั้งพระอาจารย์มั่น และพระอาจารย์สิงห์ไปจำพรรษาที่วัดป่าวิเมกธรรม หรือวัดป่าเหล่างา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ในเขตป่าช้า ที่เป็นโรงพยาบาลเก่า

หลวงปู่สิมได้รับ ได้รับสมณศักดิ์เป็น “พระครูสันติวรญาณ” เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2502 โดยได้รับพัดยศพร้อมเลื่อนสมณศักดิ์จาก “พระครูสันติวรญาณ” เป็น “พระญาณสิทธาจารย์” ในวันที่ 12 สิงหาคม 2535 และในคืนวันที่ 13 สิงหาคม 2535 พระเณรพร้อมด้วยอุบาสกอุบาสิกา ได้พร้อมใจกันเจริญพระพุทธมนต์ ฉลองสมณศักดิ์ถวายหลวงปู่ ที่วัดถ้ำผาปล่อง หลังจากเจริญพระพุทธมนต์หลวงปู่ได้พาพระเณรและญาติโยมนั่งภาวนา ต่อจนถึงเวลาประมาณ 21.30 น. ท่านก็นั่งพักเพื่อดู บริเวณ ภายในถ้ำอีกประมาณ 20 นาที คล้ายกับจะเป็นการอำลา จนถึงเวลา 22.00 น. ท่านจึงกลับเข้ากุฏิที่พัก ซึ่งอยู่ทางด้านหลังภายในถ้ำผาปล่อง และได้มรณภาพในเวลาประมาณ ตีสาม สิริรวมอายุของหลวงปู่ 82 ปี 9 เดือน 19 วัน อายุพรรษา 63 พรรษา