หลวงปู่คง วัดตะคร้อ

 หลวงปู่คง วัดตะคร้อ เป็นพระที่หลวงพ่อคูณนับถือว่ามีคุณอันประเสริฐ ท่านให้ความเคารพบูชาเป็นอย่างมาก นับว่าหลวงปู่คงท่านเป็นพระปฏิบัติชอบ สามารถให้ความเคารพได้อย่างสนิทใจ ท่านมีวัตรปฏิบัติที่งดงามน่าเลื่อมใส และท่านยังมีวิชาอาคมที่เข้าขลัง มีวัตถุมงคลที่เข้มขลังศักดิ์ทุกรุ่น มากด้วยประสบการณ์ สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านรับกิจนิมนต์โดยไม่เลือกใครยากดีมีจนท่านก็ให้เท่ากันหมด ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านหรือคหบดี ทุกคนที่มากราบท่าน หลวงปู่ก็จะมอบวัตถุมงคลให้ไปคนละกำมือ

หลวงปู่คง นามเดิม คง เทพนอก เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ค. 2453 ปีกุน ณ บ้านคอนเมือง ต.เทพาลัย อ.คง จ.นครราชสีมา อุปสมบทที่วัดบ้านวัด เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2475 เมื่อมีอายุได้ 22 ปี มีพระครูสีลวี สุทธิพรต วัดเดิมเป็นพระอุปัชย์ พระอาจารย์ทองสุข สุชาโต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ทิม สุมโมเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ฐิติปัญโญ” ซึ่งแปลว่า ผู้ที่มีปัญญาตั้งมั่น

ตลอดชีวิตของหลวงปู่ ท่านจะจำพรรษาอยู่ที่วัด และพัฒนาวัดอย่างเต็มที่ ด้วยการสร้างกุฏิสงฆ์ ศาลา หอฉัน และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากการพัฒนาวัดแล้ว ท่านยังมีน้ำใจเผื่อแผ่ไปยังโรงเรียน โรงพยบาล ทำให้วัดตะคร้อเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง ทั้งใกล้และไกล จนได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดพัฒนาที่เป็นตัวอย่างประจำปี 2531 จากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ

ท่านได้สร้างวัตถุมงคงไว้มากมาย สำหรับรุ่นแรกเป็นพระสมเด็จ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2496 ได้แจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านเพื่อเป็นพุทธานุสติ ธัมมานุสติ และสังฆานุสติ ให้เป็นที่พึ่ง และที่ยึดเหนี่ยวของประชาชน โดยมียันต์ที่หลวงปู่ใช้ประจำองค์ ประทับหลังวัตถุมงคลของท่านทุกรุ่น ได้แก่ยันต์ครองจักรวาล ซึ่งท่านได้บอกว่าสามารถใช้ได้ทุกทาง และทุกอย่างทุกประเภท สุดแล้วแต่จะอธิษฐานใช้ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลงมีเกิดมีดับ ตามกฎของพระไตรลักษณ์ ซึ่งองค์หลวงปู่ท่านก็ได้แสดงธรรมในข้อนี้ให้เป็นที่ประจักรแก่พุทธศาสนิกชนมาโดยตลอด เมื่อวันนที่ 5 มิ.ย 2548 ท่านได้รับนิมนต์ไปเป็นพระอุปัชาฌาย์บวชกุลบุตรผู้ศรัทธาในพระอุโบสถวัดตะคร้อ หลวงปู่มีอาการไม่ดี ด้วยการเจ็บหน้าอก และหายใจลำบาก จึงได้ขออนุญาตลงมาก่อนที่จะบวชเสร็จ

และต่อมาท่านก็ถึงแก่มรณภาพอย่างสงบ ด้วยสติ สัมปชัญญะครบถ้วน ณ กุฎิที่พำนักของพระเดชพระคุณหลวงปู่เอง แม้ร่างกาย และลมหายใจของท่านจะหมดไป แต่คุณงามความดี ความเมตตาของท่านยังอยู่ และยังขจรขจายไปไม่รู้จบ คณะศิษยานุศิษย์ จึงไม่มีมติก่อสร้าง เจดีย์พิพิธภัณฑ์ เพื่อบรรจึพระบรมสารีริกธาตุ สังขารขององค์หลวงปู่ อัฐบริขาร พระเครื่องและวัตถุโบราณที่ท่านได้เก็บรักษาไว้ เพื่อให้ลูกหลานรุ่นหลังได้กราบไหว้บูชา โดยได้มีพิธีบรรจุพระเบรมสารีริกธาตุ ยกยอดฉัตร และบรรจุสังขารของหลวงปู่ไว้ในองค์พระมหาธาตุเจดีย์ เมื่อปี พ.ศ. 2553 ที่ผ่านมานี่เอง