สุดยอดพระเกจิดัง สายรามัญ เทพเจ้าแห่งความเมตตา วันนี้ของเสนอประวัติ พระเถราจารย์สายรามัญ แห่งเมืองปทุมธานีผู้เปรียบประดุจเทพเจ้าแห่งเมตตา
ประวัติเกจิอาจารย์ admin  

สุดยอดพระเกจิดัง สายรามัญ เทพเจ้าแห่งความเมตตา

สุดยอดพระเกจิดัง สายรามัญ เทพเจ้าแห่งความเมตตา

วันี้ของเสนอประวัติ พระเถราจารย์สายรามัญ แห่งเมืองปทุมธานีผู้เปรียบประดุจเทพเจ้าแห่งความเมตตาของชาวปากคลองบางคูวัด ท่านเป็นสุดยอดเกจิดังสายรามัญ เป็นผู้สร้างตำนานเหรียญหายากแห่งยุคในอันดับต้น ๆ ของจังหวัดปทุมธานีทีเดียว

ท่านเป็นพระมอญที่มีปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ

พระอุปัชฌาย์เย็น (บ๊อะ) โกณฑญโญ ท่านได้รับการยกให้เป็นเทพเจ้าของชาวปากคลองบางคูวัด ท่านเกิดเมือ ปี ด.ศ. 2408 มิดามารดาได้ตั้งชื่อให้ว่า เย็น เป็นตระกูลชาวมาญแห่งบ้านปากคลอง ต.บางคูวัด แขวงเมืองปทุมธานี คนเฒ่าคนแก่ให้ข้อมูลว่าท่านเป็นคนบ้านคุ้งวัด ท่านจึงได้ชื่อภาษามอญอีกชื่อหนึ่งว่า ป๊อะ ซึ่งแปลเป็นไทยว่า เย็น ต่อมาชื่อมอญได้ถูกเรียกเพี้ยนไปว่า บ๊ะ สุดยอดพระเกจิดัง สายรามัญ เทพเจ้าแห่งความเมตตา

ท่านได้บวชเป็นพระที่พัทธสีมาวัดกลาง หรือวัดบางคูวัด

ต่อมาเมื่ออายุครบบวชท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทที่ พัทธสีมาวัดกลาง หรือวัดบางคูวัด กลาง เมื่อปี พ.ษ. 2429 โดยมีพระครูปัญญารัตน์ วัดกลางวัดบางคูวัดเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า โกณฑญโญ หลังจากได้อุปสมบทแล้ว ในระยะแรกท่านได้อยู่เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย และพระปริยัตธรรมกับท่านพระครูปัญญรัตน์ วัดกลางบางคูวัด ต่อมาท่านได้ออกเดินทางไปศึกษษพระปริยัติธรรม และวิชาอักขระบาลีกับท่านพระอาจารย์ชื่น ที่วัดสลักเมือง ซึ่งพระรูปนี้ท่านมีความชำนาญในด้านอักขระภาษาบาลี และสันสกฤตเป็นอย่างยิ่ง จนถึงประมาณปี พ.ศ. 2437 ท่านก็ได้เดินทางไปศึกษาต่อที่วัดเทียงหวาย โดยได้ร่ำเรียนวิชาวิปัสสนาและวิชาเวชศาสตร์ไปพร้อมกันด้วย ซึ่งมีพระสมุห์สว่าง ธมโชโต ซึ่งต่อมาได้เป็นพระราชาคณะ ในตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ท่านมีความสนิทสนมกันมาก

พระปลัดเย็น (บ๊อะ) โกณฑญโญ ท่านเป็นพระที่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงไม่มีโรคภัยต่าง ๆ เบียดเบียน กระทั่งปี พ.ศ. 2490 ท่านได้อาพาธด้วยโรคลมปัจจุบัน และได้ละสังขารไปอย่างสวบ ภายในกุฏฺสงฆ์ของท่านเอง ซึ่งนับว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของชาวบ้านปากครองบางคูวัด ที่ได้สูญเสียเกจิดัง ซึ่งเปรียบประดุจเทพเจ้าของชาวบ้านปากคลองบางคูวัด และท่านที่เคาระศรัทธาทั้งหลายไปอย่างไม่มีวันกลับ โดยได้รวบรวมสิริอายุรวมของท่านได้ 82 ปี พรรษาที่ 63

นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของชาวบ้านปากคลองบางคูวัด เพราะสมัยที่ท่านยังมีชีวิตท่านได้อุทิตตนทำสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ไว้มากมาย ทั้งในทางศาสนา และทางโลก ท่านเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านใกล้เคียง และที่ห่างไกลเป็นอย่างมาก สังเกตได้ว่าในงานพิธีศพของท่านนั้นได้มีชาวบ้าน และคนรู้จักมากราวไหวศพอย่างมากมาย จนเต็มลานวัดไปหมด ซึ่งหาได้ยากยิ่งในสมัยนั้น