พ่อท่านบุญให้ ปทุโม เกจิดัง แห่งเมืองนครศรีธรรมราช
พ่อท่านบุญให้ ปทุโม เกจิดัง แห่งเมืองนครศรีธรรมราช
พ่อท่านบุญให้ ปทุโม เจ้าอาวาสวัดท่าม่วง ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าคณะตำบลปากพูน ท่านครองเพศสมณะด้วยความสมถะ ออกกิจนิมนต์ด้วยการซ้อนมอเตอร์ไซต์ เพราะไม่มีรถยนต์ในการเดินทาง หรือเดินไปด้วยเท้าเปล่า ท่านเป็นพระบำเพ็ญเพียร ตั้งมั่นอยู่ในธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบ้ติที่เรียบง่าย งดงาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ที่พบเห็น และได้รับการยกย่องว่าเป็นเกจิดังระดับแนวหน้าสายใต้ในยุคปัจจุบัน
พ่อท่านบุญให้ ปทุโม เกจิดัง แห่งเมืองนครศรีธรรมราช
วัตถุมงคลของท่านมีพุทธคุณทางด้านคงกระพันชาตรีเป็นเลิศ
ท่านได้เคยจัดสร้างวัตถุมงคล ที่มีพุทธคุณเป็นเลิศทางคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด และเมตตามหานิยม มาแล้วหลายรุ่น มีผู้นำไปใช้และเกิดประสบการณ์มากมาย ทำให้เกียรติคุณของท่านขจรขจายออกไปอย่างกว้างขวาง เป็นที่เลื่องลือกันมาก และท่านยังได้รับนิมนต์ไปในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลต่าง ๆ มากมายตลอดมา เช่น ในปี พ.ศ. 2530 ได้ไปร่วมอธฺฐานจิตปลุกเสก จตุคามรามเทพรุ่น ปี พ.ศ. 2030 ที่เป็นรุ่นต้นกำเนิดจตุคามรามเทพ ซึ่งเป็นวัตถุมงคลที่ลือลั่นของภาคใต้ และของเมืองไทย และวัตถุมงคลจตุคามรามเทพ ในปี พ.ศ. 2545 และอีกหลาย ๆ รุ่นที่ได้มีผู้จัดสร้างขึ้นมาก็ต้องมีพ่อท่านบุญให้ ปทุโม ร่วมด้วยทุกครั้ง
ชาติกำเนิดของท่านพ่อบุญให้ ปทุมโม
พ่อท่านเกิดในสกุล สุขขนาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 สิงหาคม พ.ศง 2471 ที่หมู่บ้านบางทองคำ ต.บ้านเนิน อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยบิดาชื่อ นายสงฆ์ โยมมารดาชื่อ นางทองนวล สุขขนาน มีพี่น้องท้องเดียวกัน 9 คน ท่านเป็นคนที่ 6 ในวัยเยาว์ ท่านเป็นเด็กเรียบร้อย ไม่ชอบเที่ยวเตร่ เมื่อเริ่มเข้าวัยรุ่นท่านมีจิตใจฝักใฝ่ในทางธรรม ในพระพุทธศาสนา ท่านเป็นเด็กที่มีความขยันขันแข็ง รักสัตว์เลี้ยงและดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี เมื่ออายุได้ 20 ปีบริบูรณ์ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท เพื่อเป็นการทดแทนคุณบิดา มารดา เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2491 ณ วัดพระหอม ต.บ้านกลาง อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีพระธรรมปาลาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระปลัดฝาก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ปทุโม ซึ่งมีความหมายว่า ดอดบัว เมื่อได้อุปสมบทแล้วท่านก็ได้เริ่มศึกษาเล่นเรียนพระปริยัติธรรม รับใช้ครูบาอาจารย์ที่สั่งสอนสรระวิชาให้ตลอด 3 พรรษา พระครูของท่านเป็นลูกศิษย์พ่อท่านจับ วัดท่าสีพง
ได้รับเมตตาถ่ายทอดวิธาคาถาอาคมต่าง ๆ ไว้ได้ครบถ้วน ไม่มีปิดปังพ่อท่านได้หนั่นฝึกฝนทบทวนปฏิบัติวิทยาคมมาโดยตลอดมิได้ขาด จนเชี่ยวชาญ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2494 ท่านได้เดินทางมายังภาคกลาง และได้เข้าจำพรรษาที่วัดเขมาภิรตาราม อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย 13 พรรษา จากนั้นท่านอาจารย์ก็ให้พ่อท่านบุญให้ เป็นเจ้าอาวาส วัดท่าบันเทิงธรรม เขตบางกอกน้อย ท่านได้บูรณะซ่อมแซมกุฏิ สร้างศาลาโรงธรรมต่าง ๆ เป็นเวลา 3 พรรษาแล้วได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดพระหอมอีก 1 พรรษา ซึ่งในตอนที่ท่านเข้ามาอยู่ใหม่ ๆ นั้นวัดทรุดโทรมมาก ท่านจึงได้บูรณะขึ้นใหม่ได้อย่างสวยงามเป็นที่ถูกอกถูกใจของชาวบ้าน และได้จำพรรษาที่วัดนี้ตลอดมา