
ประวัติหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
ประวัติหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
หลวงปู่โต๊ะ หรือพระราชสังวราภิมณฑ์ ท่านเป็นคนสมทุรสงครามมาแต่กำเนิด โดยเกิดในสกุล รัตนคอน ใกล้คลองบางน้อย ต.บางพรหม อ.บางคณฑี จ.สมุ่รสงคราม บิดาชื่อนายลอย มารดาชื่อนางทับ เกิดเมื่อ วันอังคารขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ปีกุน ตรงกับวันที่ 27 เดือนมีนาคม พ.ศ. 2430 มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 2 คน โดยเรียงลำดับดังนี้
- หลวงปู่โต๊ะ หรือพระราชสังวราภิมณฑ์
- นายเฉี่อย รัตนคอน (ถึงแก่กรรม)
ท่านเป็นเด็กที่มีสติปัญญา โดยฉายแววมาตั้งแต่เล็ก มีลักษณะของการเป็นผู้นำ เป็นที่ประจักรแก่บิดามารดา และคนทั่วไป ท่านเป็นผู้ที่มีความเข้มแข็ง ว่องไวเป็นนิสัย มีสติปัญญาเฉียบแหลมเฉลียวฉลาด มีความกตัญญู มีความขยันมานะอดทน มีน้ำใจในการเสียสละ มีวาจาสุภาพอ่อนโยน จึงเป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป หลายครั้งท่านมักแอบไปฟังพระสวดมนต์ จนสามารถท่องจำได้ จนถึงท่านเข้าสู่วัยหนุ่มท่านก็หาได้มีจิตใจใฝ่หาสตรีเพศไม่ นับว่าเป็นนิมิตรหมายแห่งการดำเนินสู่มรรคาแห่งศาสนาตั้งแต่นั้นมา
ท่านได้รับการศึกษาในขั้นต้น ท่านได้เรียนครั้งแรกที่วัดเกาะ แก้ว ปากคลองบางกอกน้อย ต.บางพรหม อ.บางคณฑี จ.สมุทรสงคราม ต่อมาบิดามารดาเสียชีวิตไปหมด พระแก้วหรือหลวงตาแก้ว ซึ่งเป็นญาติกับท่าน ได้จำพรรษาอยู่กับพระอุดรคณารักษ์ ที่วัดพระเชตุพน ได้นำท่านมาฝากไว้กับพระอธิการสุข ซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลี ได้มาแต่หลวงปู่เพียงคนเดียว ส่วนน้องชายหรือนายเฉื่อยนั้นให้อยู่ที่วัดเกาะตามเดิม พระอธิการสุขและพระแก้วท่านเป็นเพื่อนที่รักกันมาก เพราะให้ความเคารพซึ่งกันและกันมาโดยตลอด ในขณะที่นำหลวงปู่โต๊ะมาฝากที่วัดประดู่ฉิมพลีนั้น อายุของท่านได้ 13 ปีเศษ
ครั้นเมื่อท่านมีอายุย่างเข้า 17 ปี ก็ได้บวชเป็นสามเณร ณ วัดประดู่ฉิมพลี เมื่อปี 2477 มีพระอธิการสุข เป็นพระอุปชฌา ซึ่งเมื่อท่านได้บวชเป็นสามเณรแล้ว ท่านมีความขยันหมั่นเพียรท่องเรียนพระธรรมอย่างมาก และสามารถจำจำได้เป็นอย่างดี
ต่อมาเมื่อายุครบบวช 20 ปี ท่านก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดประดู่แมพลี เมื่อวันอังคาร เดือน 8 ขึ้น 7 ค่ำ ปีมะแม ซึ่งตรงกับวันที่ 16 กรกฎาคม 2450 เวลา 15.30 น. โดยมี พระครูสมณธรรมสมาธาน (แสง) วัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูอักขรานุสิต (ผ่อง) วัดนวลนรดิศ เป็นพระกัมมวาจารย์ พระครูธรรมวิรัติ (เชย) วัดกำแพง เป็นอนุสาวนาจารย์ มีฉายาในพระพุทธศาสนาว่า “อินฺทสุวณฺโณ” ต่อมาท่านก็ได้ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยตลอดมา เมื่อท่านมีอายุได้ ๒๖ ปี พรรษาที่ ๖ และมีฐานานุกรมที่ พระใบฎีกา ท่านได้รับภาระ เป็นเจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลีสืบมาจนถึงแก่กาลมรณภาพจนกระทั่งท่าน อายุได้ ๙๓ ปี ๑๐ เดือน กับ ๒๒ วัน ก็ละสังขาร