ประวัติหลวงปู่ทวด วัดช้างให้
ประวัติเกจิอาจารย์ admin  

ประวัติหลวงปู่ทวด วัดช้างให้

ประวัติหลวงปู่ทวด วัดช้างให้

หลวงปู่ทวดวัดช้างให้ เป็นพระเกจิ ฯ ที่โด่งดังรู้จักกันทั่วประเทศ ท่านเป็นพระที่มีความศักดิ์สิทธิ์และอิทธิปาฎิหาร์ย์แก่กล้าได้สมญานามว่า “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” เป็นที่เคารพนับถือของสาธุชนทั่วไป 

ประวัติหลวงปู่ทวด วัดช้างให้

หลวงปู่ทวด ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ที่มีตัวตนอยู่จริงเมื่อประมาณ สี่ร้อยกว่าปีที่ผ่านมา หรือเมื่อสมัยพระมหาธรรมราชา แห่งกรุงศรีอยุธยา ท่านเกิดที่ หมู่บ้านสวนจันทร์ ต.ชุมพล เมืองจะทิ้งพระ เมื่อวันศุกร์ เดือนสี่ ปีมะโรง พ.ศ. 2125 ในครอบครัวเล็ก ๆ ฐานะยากจน มีนามตอนยังเป็นเด็กว่า ปู เป็นบุตรนายหู และนางจันทร์ ตอนเกิดมีเรื่องเล่าถึงความอัศจรรย์มากมายเป็นเรื่องที่ได้รับรู้กับมาแล้ว กับเรื่องงูใหญ่ที่มาขดอยู่ในเปล แต่ไม่ได้ทำร้ายอย่างใด แต่ทำให้ในกาลต่อมาครอบครัวก็มีฐานะดีขึ้น เมื่อเด็กชายปูมีอายุได้ 7 ปี บิดาได้นำไปฝากให้เรียนหนังสือกับท่านสมภารจวง วัดกุฏิหลวง (วัดดีหลวง) เด็กชายปูมีความเฉลียวฉลาดสามารถเรียกหนังสือขอม และภาษาได้ได้อย่างรวดเร็ว เมื่ออายุครง 15 ปี ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณร ต่อมาได้ไปศึกษากับสมเด็จพระชินเสน ที่วัดสีหยัง (สีคูยัง) จนอายุครบบวชจึงได้อุปสมบทเป็นพระแล้วได้ไปศึกษาต่อที่ จ. นครศรีธรรมราช ณ สำนักพระมหาเถระปิยทัสสี เมื่ออุปสมบทมีฉายาว่า “ราโม ธมมิโก” แต่คนทั่วไปเรียกว่า “เจ้าสามีราม” หรือ “เจ้าสามีราโม” และอยู่จำพรรษาที่วัดท่าแพ วัดสีมาเมือง และวัดอื่น ๆ อีกหลายวัด เมื่อสำเร็จการศึกษาที่นครศรีธรรมราชแล้ว จึงได้โดยสารเรือสำเภาเพื่อเดินทางกลับกรุงศรีอยุธยา ขระเรือมาถึงชุมพร เกิดพายุใหญ่เรือไม่สามารถเดินทางต่อไปได้จึงทอดสมออยู่ถึง 7 วัน ทำให้เสบียงอาหารใกล้จะหมดโดยเฉพาะน้ำดื่มลูกเรือได้ตั้งข้อรังเกียจพระว่าทำให้เกิดเหตุอาเพศ จึงได้ตกลงใจส่งให้ขึ้นไว้ที่เกาะและได้นิมนต์ให้ลงเรือเล็ก ขณะที่ท่านสามีรามนั่งอยู่ในเรือเล็กนั้น ท่านได้ห้อยเท้าอยู่ในน้ำทะเลก็ได้เกิดเหตุอัศจรรย์น้ำทะเลที่อยู่บริเวณนั้นเกิดประกายแวววาวขึ้น เจ้าสามีรามจึงได้เรียกลูกเรือมาดู และให้ตัดน้ำขึ้นมาดื่ม ปรากฏว่าเป็นน้ำจืดสนิท ทำให้ลูกเรือได้กลับใจนิมนต์ให้ท่านกลับมาที่เรือสำเภาอีกครั้ง และเดินทามาถึงอยุธยาได้โดยปลอดภัย

เมื่อถึงกรุงศรีอยุธยา ท่านได้ไปจำพรรษาที่วัดแค และวัดสุมะลินาวาส ซึ่งเป็นวัดของสมเด็จพระสังฆราช ได้ศึกษาธรรมและภาษาบาลีต่ออีกจนมีความเชี่ยวชาญ จึงทูลลาสมเด็จพระสังฆราชไปจำพรรษาที่วัดราชนุวาส เมื่อพ.ศ. 2149 ซึ่งตรงกับสมัยของสมเด็จพระเอกาทศรถ

กาลเวลาผ่านไปชื่อเสียงของหลวงปูทวดก็เริ่มขจรขจายไปในหมู่ผู้นับถือ และขยายไปทั่วกรุงสยาม ต่อมาเกิดเหตุพิสดารขึ้นในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ คือ ในสมัยพระเจ้าวัฎฎะคามินี แห่งศรีลังกา ซึ่งเป็นเมืองขึ้นของกรุงศรีอยุธยามาก่อน ได้คิดแก้มือด้วยการท้าพนันแปลพระธรรม เพื่อต้องการแผ่พระบรมเดชานุภาพมาทางกรุงศรีอยุธยา และแหลมทองและมีความประสงค์ที่ต้องการกรุงศรีอยุธยาเป็นประเทศราชโดยไม่ต้องการให้เกิดศึกสงคราม จึงได้สร้างอุบายขึ้นมา และได้ให้พราหมณ์ที่มีฐานะเทียบเท่าปุโรหิต 7 ท่านเดินทางมาพร้อมเครื่องบรรณาการมากมาย เมื่อถึงกรุงศรีอยุธยาพร้อมปริศนาธรรมของพระองค์ เมื่อพราหมณ์ทั้ง 7 เดินทางมาถึง ก็เข้าเฝ้าพร้อมพระราชสาส์น เพื่อท้าประลองถ้าแพ้ทางกรุงศรีอยุธยาต้องตกเป็นเมืองประเทศราชและต้องส่งเครื่องบรรณาการ ทางกรุงศรีอยุธยาจึงจำต้องรับคำท้า และได้ประกาศหาผู้ที่มีความสามารถเพื่อประลองยุทะในครั้งนี้ก็ไม่มีผู้ใดที่มีความสามารถเพียงพอ ต่อมาเจ้าสามีรามได้มาเข้าเฝ้าและอาสา และได้รับชัยชนะทำใหเกิดความยินดีกันทั่ว และได้รับการยกย่องสรรเสริญตั้งแต่นั้นมา

 

 

ประวัติหลวงปู่ทวด วัดช้างให้