
ประวัติพระผงสุพรรณ
ประวัติพระผงสุพรรณ
พระผงสุพรรณ นับว่าเป็นพระยอดขุนพลแห่งพระเครื่องชุดเบญจภาคี เป็นพระดีแห่งเมืองสุพรรณบุรี เป็นพระที่หายาก และมีของปลอมมากเกลื่อนเมือง
ตำนานการสร้างพระผงสุพรรณ
ท่านอาจารย์กลิ่นแห่งวัดจักรวรรดิ กรุงเทพมหานคร ได้บอกเล่าไว้ว่า ท่านมหาชิ้น วัดจักรวรรดิ เป็นผู้ตัดต่อจากลานทอง ที่พระปรางวัดพระธาตุ อ.เมือง สุพรรณ เมื่อประมาณ พ.ศ. 2453 มีใจความว่า มีฤาษีพิราลัยเป็นประธาน ทำด้วยฤทธิ์ ด้วยเครื่องประดิษฐ์ที่มีสุวรรณ เป็นต้น ได้แก่ พระบรมกษัตริย์ พระศรีธรรมาโศกราชซึ่งเป็นผู้ศรัทธา ฤาษีทั้ง 4 จึงพร้อมใจกันนำเอาแร่ว่านทั้งหลายอันเชื่อกันว่ามีฤทธิ์แร่ต่าง ๆ กัน พร้อมอัญเชิญเทพยดา ให้มาช่วยกันทำพิธีให้เป็นพระพิมพ์สถานหนึ่ง แดงได้แก่ผลว่านที่นำมาทำผงในการปั้นด้วยมือ พระมหาเถรปิยทัสสะดิสศรีสาริบุตร คือการเป็นใหญ่ มาเป็นประธาน ได้นำแร่ต่าง ๆ ขัดยาสำเร็จแล้วให้นามว่า “แร่สังฆวานร” ได้หล่อเป็นพิมพ์ต่าง ๆ อันมีอานุภาพที่ต่างกัน แล้วเสกด้วยมนต์คาภาให้ครบเป็นเวลา 3 เดือน แล้วจึงนำไปประดิษฐานไว้ในสถูปใหญ่แห่งเมืองสุพรรณบุรี ถ้ามีผู้มาพบหรือผู้ใดได้พบให้รับเก็ยไว้สักการบูชา เพราะเป็นของวิเศษยิ่งนัก
พระผงสุพรรณกรุแตก พ.ศ. 2456
นายพิน ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อ พ.ศ. 2456 แกยังเป็นเด็กและเป็นลูกวัดอยู่ ได้มีพระสงฆ์รูปหนึ่งมาถามว่า วัดพระธาตุไปทางไหน นายพิน ก็ชี้ทางให้ ต่อมาได้ทราบว่าพระสงฆ์องค์นั้นได้ลายแทงให้มาขุดหาสมบัติ และได้ผอบทองคำไปใบหนึ่ง แต่มิได้นำอะไรไปจากกรุเลย แต่ชาวจีนที่เป็นผู้จ้างให้มาขุดกลังได้พระเครื่องต่างไปเป็นอันมาก เช่น พระผงสุพรรณ พระกำแพงศอก ได้นำออกขาย เรื่องได้เข้าหูเจ้าหน้าบ้านเมืองก็รีบไปจัดการอุดช่องโหว่ที่พระปรางค์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเสีย
ต่อมาในปี พ.ศ. 2456 ซึ่งเป็นปีเดียวกับปรกรุแตก พระยาสุนทรบุรี (อี้ กรรณสูต) ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีในสมัยนั้น ได้นำเสด็จ ร.6 ไปเปิดกรุได้พบลายแทงแผ่นลายเงืน-ทอง จารึกอักษรขอม ต่อมาพระสุนทรบุรี ได้นำเอาพระผงสุพรรณขึ้นถวายพร้อมพระเครื่องต่าง ๆ ที่ขุดได้จากกรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุแต่ล้นเกล้า ร.6
พระผงสุพรรณนับว่าเป็นพระเครื่องที่ศักดิ์สิทธิ์และมีอภินิหารมากองค์หนึ่ง ในสมัยก่อน ชาวเมืองสุพรรณนิยมเล่นกีฬาชนควายเพื่อเป็นการพนันเอาเงินเอาทองกัน ในระหว่างนั้นพระผงสุพรรณมีอยู่มาก และยังไม่มีมูลค่า เหมือนในปัจจุบันนี้ จึงได้นำเอมพระผงสุพรรณที่แตกหักไปป่นให้ละเอียด ผสมคลุกกับหญ้าให้ควายกิน ก่อนนำไปชนกัน ปรากฏว่าความที่กินเศษผงพระผงสุพรรณเข้าไปจะขวิดได้ดีมาก และที่สำคัญยังหนังเหนียวอีกด้วย เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก จึงทำให้ร่ำลือกันไปทั่งเมืองสุพรรณทีเดียว